วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ชิงช้าสวรรค์ลอนดอนอาย ( London Eye )

    
 London Eye 






ลอนดอนอาย (London Eye) ที่รู้จักในชื่อ มิลเลเนียมวีล (Millennium Wheel) เป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป มีความสูง 135 เมตร(443 ฟุต) ละกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมากในสหราชอาณาจักร มีผู้มาเยือนมากกว่า 3 ล้านคนต่อปี ส่วนบัตรข้าชมสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 15 ปอนด์ต่อคน



ซึ่งในอดีตเคยเป็นชิงช้าสวรรค์ก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก ก่อนจะถูกชิงตำแหน่งไป จากชิงช้าสวรรค์ เดอะ สตาร์ อฟ นานชาง ในประเทศจีน (160 เมตร) ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2006 ต่อมาภายหลังตำแหน่งตกเป็นของ สิงคโปร์ฟลายเออร์ ในประเทศสิงคโปร์ (165 เมตร) นวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 อย่างไรก็ตาม ลอนดอน อาย ก็ยังคงได้รับตำแหน่งจากการให้บริการว่า"ชิงช้าสวรรค์ที่ก่อสร้างด้วยโครงเหล็กค้ำข้างเดียวที่สูงที่สุดในโลก" (เพราะการโครงสร้างทั้งหมดใช้โครงค้ำเหล็กรูปตัว A ในการให้บริการโดยใช้โครงค้ำเพียงแค่ด้านเดียวเท่านั้นไม่เหมือนชิงช้าสวรรค์อื่นๆ ทั่วไปที่มีโครงค้ำสองข้าง)


ลอนดอน อาย ตั้งอยู่ ณ ที่ฝั่งสุดด้านตะวันตกของสวนจูบิลี่ บนริมฝั่งทางใต้ของแม่น้ำเทมส์ ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ระหว่างสะพานเวสต์มินสเตอร์กับสะพานฮันเกอร์ฟอร์ด โดยสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของโดมแห่งการค้นพบ ที่เคยสร้างขึ้นเพื่อใช้ในงานนิทรรศการเฟสติวัล ออฟ บริเตนในปี ค.ศ. 1951 ออกแบบและสร้างสรรค์โดย David Marks and Julia Barfield ด้วยการสนับสนุนโดยสายการบิน British Airways กระทั่งถึงเดือนมีนาคมปี 2000 london eye ที่ใครต่อใครในปีนั้น ไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะให้ตั้งโชว์ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ (ส่วนหนึ่งด้วยการบังทัศนวิสัยหรือรกทัศนียภาพ) นั้น ค่อยๆฝ่าทัศนคติรุนแรงและกลายเป็นของเล่นทันสมัยที่ใครต่อใครต้องไปถ่ายรูปเมื่อไปเยือนลอนดอน


  ด้วยความสูงต่อรอบที่มากถึง 135 เมตร และการหมุนเคลื่อนอย่างเชื่องช้าในแต่ละรอบนั้น เท่ากับว่า london eye ไม่ได้ทำหน้าที่ในเชิงเทคโนโลยีเท่านั้น แต่มีความหมายในเชิงวัฒนธรรมเมือง ด้วยการเป็นพาหนะในการเชื้อเชิญชวนเชิญให้นักท่องเที่ยวได้ละเลียดมุมมองงดงามจากด้านต่างๆของมหานครลอนดอน

        london eye นั้น จะมีระยะเวลาในการหมุนต่อรอบ ด้วยเงื่อนไข 30 นาที ด้วยระยะความเร็วที่0.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั่นทำให้เมื่อคำนวณกับมุมต่างๆ ของวิวที่อยู่เหนือพื้นดินขึ้นไปนั้น นักท่องเที่ยวมีเวลาเหลือเฟือที่จะเก็บภาพต่างๆ ได้อย่างเพียงพอบางคนนั้นรู้สึกว่า เมื่อชิงช้าสวรรค์ชื่อนี้ของอังกฤษ ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปถึงเพดานสูงสุดนั้นผู้โดยสารจะรู้สึกได้ถึงความสูงอย่างชัดเจน










สถานที่ท่องเที่ยวเกาหลี


สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของ เกาหลี

สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้)


SEOULกรุงโซล (เซอูล) เมืองหลวงอายุมากกว่า 600 ปี ที่อนุรักษ์ความเก่าแก่โบราณให้กลมกลืนกับความทันสมัย ศูนย์กลางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม ถูกโอบร้อมด้วยภูเขาและมีแม่น้ำฮันคัง – สายโลหิตของชาวเมือง ไหลผ่านใจกลางเมืองและสวรรค์สำหรับนักช้อปปิ้ง มีประชากรราว 14 ล้านคน





2. SEOUL TOWER (CABLE CAR + LIFT)สวนสาธารณะนัมซานและหอคอยกรุงโซล นั่งกระเช้าไฟฟ้าสู่สวนสาธารณะนัมซานซึ่งตั้งอยู่บนเขานัมซานใจกลางเมือง หลวง ชมทัศนียภาพอันงดงามของกรุงโซล บนหอคอยกรุงโซล 1 ใน 10 หอคอยเมืองที่สูงที่สุดในโลก สูงถึง 480 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
3. CHOGYESA TEMPLE วัดโซเกซา สร้างขึ้นในปี 1910 เป็นวัดใหญ่เพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง และในปี 1936 ได้กลายเป็นวัดศูนย์กลางพุทธศาสนานิกายโซเก นิกายที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี ภายในศาลาจะเป็นที่ตั้งขององค์พระประธาน และพระพุทธรูปน้อยใหญ่ ภายในวัดยังมีต้นสนที่นำมาจากเมืองจีน ซึ่งมีอายุกว่า 500 ปี ใกล้ ๆ กับวัด มีร้านสังฆภัณฑ์มากมายตั้งอยู่
4. HAN-GANG RIVER CRUISE ล่องแม่น้ำฮัน แม่น้ำฮัน เป็นเม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ตลอดความยาว 15 กม. ที่เรือเล่น จากท่าเรือชัมชิลหรือยอ-อิ-โด สองข้างทางแม่น้ำฮัน จะขนาบด้วยถนน สวนสาธารณะอนุเสาวรีย์ ตึกรามบ้านช่องทั้งแบบดั้งเดิมและทันสมัยความใสสะอาดของแม่น้ำฮัน
5. OLYMPIC STADIEUM สนามกีฬาโอลิมปิค ชมความยิ่งใหญ่ของสนามกีฬาโอลิมปิคซึ่งประเทศเกาหลีใต้ได้รับเกรียติเป็น เจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิคครั้งที่ 24 เมื่อ ปี ค.ศ.1988 สนามแห่งนี้สามารถจุผู้ชมได้ถึงหนึ่งแสนคน และยังได้รับคัดเลือกให้ใช้ในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ในปี ค.ศ. 2002 ซึ่งประเทศเกาหลีและประเทศญี่ปุ่นร่วมกันเป็นเจ้าภาพ
6. WAR MEMORIAL พิพิธภัณฑ์สงคราม แวะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สงคราม ที่เปิดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อระลึกถึงผู้คนและทหารหาญ ที่ได้ช่วยปกป้องประเทศเกาหลีในช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเพื่อสอนให้ผู้คนในปัจจุบันได้เรียนรู้ถึงบทเรียนอันเจ็บปวดที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก ท่านจะได้ถ่ายรูปกับเครื่องบิน รถถัง ตลอดจนยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาจากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเกาหลีในปี 1950

7. PONGUNSA TEMPLE วัดพงเอินซา นำท่านนมัสการ วัดใหญ่- พงเอินซา วัดอันเก่าแก่ของชาวเกาหลี ชมความงดงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมและนมัสการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ พร้อมนมัสการเจ้าแม่กวนอิมองค์ยืนตระหง่านอยู่กลางแจ้ง
8. LOTTE WORLD ADVENTURE สวนสนุกล็อตเต้เวิลดิ์ นำท่านสู่ดินแดนแห่งความสนุกหฤหรรษ์และไฮเทคในรูปแบบใหม่ที่สวนสนุกล็อตเต้ เวิลดิ์ สวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี สนุกสนานกับเครื่องเล่นหลากชนิดทั้งในร่มและกลางแจ้ง ไม่ว่าการผจญภัยกับโลกของซินเบต หอคอย โรงหนังสามมิติ ไวกิ้ง รถรางไฟฟ้า ชมความงามของสวนสนุกทั้งภายในและนอกอาคาร เกมส์การละเล่นต่าง ๆ ขบวนพาเหรด โชว์ต่าง ๆ ตลอดจนร้านขายอาหาร ร้านขายของที่ระลึกเฉพาะของสวนสนุกล็อตเต้เวิลดิ์
9. TONGDAEMUN MARKET ตลาดทงแดมุน ตั้งอยู่ใกล้ประตูเมืองตะวันออก เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของกรุงโซลและยอดฮิตที่สุด แหล่งรวมเสื้อผ้า ผ้าพันคอ เนคไท ถุงเท้า ถุงน่อง ชุดสูท ผ้าชิ้น อุปกรณ์กีฬา กิ๊ฟช้อป สินค้าพื้นเมือง ในราคาขายส่งและปลีก


10. NAMDAEMUN MARKET ตลาดนัมแดมุน ตั้งอยู่ใกล้ประตูเมืองทิศใต้ ซึ่งเป็นประตูเมืองที่เก่าแก่ที่สุดตลาดพื้นเมืองอีกแห่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ร้านอาหารเป็นต้น และร้านรวงต่าง ๆ ยังเปิดบริการเที่ยงคืนให้ ผู้ไม่มีเวลาระหว่างวันได้มาเลือกซื้อของ
11. ITAEWON STREET ถนนอีแทวอน เที่ยวเขตท่องเที่ยวพิเศษ – ถนนอีแทวอน ซึ่งเป็น 1 ในแหล่งช็อปปิ้งที่นักท่องเที่ยวหรือคนพื้นเมืองเองชื่นชอบมีร้านรวงกว่าพัน ร้านค้าตลอด ถนนที่ยาว 1.5 กม. มี สินค้าให้เลือกมายมาย โดยเฉพาะสินค้าเครื่องหนังที่ที่เลียนแบบยี่ห้อดัง ๆ จากทั่วโลก ในราคาน่าซื้อ ถือเป็นถนนนานาชาติ
12. INSADONG ย่านอินซาดอง ณ ย่านที่ได้ชื่อว่า ” ถนนแห่งแอนติค ” ค้นพบความเก่าแก่ที่ผสมอารยธรรมสมัยใหม่ในเมืองหลวง ร้านแกลอรี่ ร้านศิลปะพื้นเมือง ร้านขายวัตถุโบราณ ร้านอาหารพื้นเมืองที่เลื่องชื่อ ร้านชาพื้นเมือง โบราณที่มีชื่อเสียง ร้านสะสมแสตมป์ ร้านเซรามิค เป็นต้น
13. MYONGDONG ย่านเมียงดอง ถูกขนานนามว่า ” ถนนแฟชั่นของเกาหลี ” ทุก ๆ วัน จะมี ผู้คนมาที่นี่กว่า 1 ล้านคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หนุ่มสาว คนทำงาน เพื่อเลือกซื้อสินค้าและบริการที่ชื่นชอบ อาทิเช่น ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นบูติก ร้านรองเท้า ร้านทำผม ร้านคอสเมติก ร้านกาแฟ โรงหนัง และร้านอาหารนานาชนิด ไม่ไกลนักยังเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
14. YONGSAN ELECTRONICS MARKET ตลาดไฟฟ้ายงซาน ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ใช้ภายในบ้านหรือแม้กระทั่งคอมพิวเตอร์ ก็สามารถหาซื้อได้ที่ นี่ ซึ่งมีร้านค้าคอยให้บริการมากกว่า 5,000 ร้าน มีขนาดใหญ่กว่าย่านอาคิฮาบาราของประเทศญี่ปุ่นเสียอีก
15. DEPARTMENT STORE ห้าง สรรพสินค้า OR DUTY FREE SHOP ห้างหรือร้านค้าปลอดภาษี ห้างสรรพสินค้ามีอยู่ทั่วไป และร้านค้าปลอดภาษี อาทิเช่น ชิลล่าดิวตี้ฟรี ล๊อตเต้ดิวตี้ฟรี สนามบิน เป็นต้น
16. SHERATON WALKER HILL SHOW AND CASINO เชอราตัน วอกเกอร์ฮิล โชว์และคาสิโนแสดงอยู่ที่โรงแรมเชอราตัน วอกเกอร์ ฮิล เป็นประจำทุกวัน ในหอประชุมใหญ่ที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 700 คน โดยแสดงการร้อง การรำ ทั้งแบบในวังและพื้นเมืองที่หาดูได้ยากจากคณะนาฏศิลป์กรุงโซลและทอปเลคโชว์ แบบลิโดหรือลาสเวกัสประกอบมายากล และอื่น ๆ อีกมากมายอย่างตระการตา ทั้งแสง สี เสียง ฉาก อย่างที่ประทับใจไม่รู้ลืม เพียงแห่งเดียวในเกาหลีหรือเสี่ยงโชคที่คาสิโน มีทั้งแบล์ค-เจต ลูเลต และอื่น ๆ ให้ท่านเลือกตามความชอบ ซี่งเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง





ไปเลยที่.....เชียงคาน



อำเภอเชียงคาน  เป็นอำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่งของ จ.เลย  อยู่ห่างจากตัวเมืองเลยประมาณ 47 กม  ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นอำเภอเล็กๆแต่ทว่าชื่อเสียงของเชียงคานไม่ได้เล็กตามขนาดของอำเภอ  เชียงคานแห่งนี้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆทุกวัน  ด้วยความที่เชียงคานเกาะกระแสเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและมีธรรมชาติที่สวยมาก และยังมีร้านค้าฮิปๆอีกมากมาย จึงทำให้เชียงคานเป็นที่สนอกสนใจแก่ผู้คนทั่วไปเป็นอย่างมาก 







นอกจากนี้เชียงคานยังคงอนุรักษ์สภาพบ้านเรือนอันเก่าแก่ สังเกตได้จากบ้านเรือนที่อยู่ริมชายโขง ยังคงสภาพบ้านเรือนแบบเก่าเอาไว้ รวมถึงการดำเนินชีวิตแบบบ้านๆที่ยังคงมีให้เห็น และกลายเป็นจุดขายอีกจุดหนึ่งของเชียงคาน คือการตักบาตรข้าวเหนียว การหาปลาในแม่น้ำโขงเป็นต้น




มื่อมาเชียงคานแล้ว อย่าลืมตื่นเช้ากว่าเดิมสักนิด แล้วออกมาเดินเลาะเลียบริมทางเดินชายแม่น้ำโขง สัมผัสอากาศเย็นและดูหมอกปกคลุมในช่วงหน้าหนาว พร้อมทั้งลองชิมอาหารเช้าอย่างไข่กะทะ  และตอนเย็นๆถ้ามีเวลาว่างลองกลับมาที่นี่อีกครั้งพร้อมชมพระอาทิตย์ตกดินอันสวยงามจับใจที่ชายโขงแห่งนี้




ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่ริมแม่น้ำโขง เชียงคาน






แม้กระแสอินเทรนด์อินเชียงคานกำลังมาแรงในช่วงนี้ แต่ผู้คนที่นี่ก็ยังคงมีน้ำใจและไม่ตรีให้แก่นักท่องเที่ยวเสมอ และให้ความเป็นกันเองเหมือนอยู่บ้านตัวเองไม่ผิดเพี้ยน และนี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเชียงคานที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยว ต้องการที่จะไปเยี่ยมเยือนเมืองเล็กๆแห่งนี้อยู่ร่ำไป

ด้วยความที่เชียงคานเปรียบเสมือนเด็กชายตัวน้อยที่กำลังเติบโต วันนี้ที่เชียงคานจึงมีการลงทุนจากผู้คนต่างถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่เองค่อนข้างมาก  สังเกตได้จากที่พักโฮมสเตย์ จะมีอยู่มากมายให้เลือกด้วยราคาถูกจนถึงราคาแพง และร้านรวงต่างๆก็มีให้เห็นมากมายตลอดแนวถนนริมโขง 

ไฮไลท์เชียงคานนอกจากตักบาตรข้าวเหนียวตอนเช้า และเดินเล่นถนนคนเดินริมโขงตอนค่ำแล้ว  ยังมีสถานที่ใกล้เคียงอีกหลายแห่งที่น่าจับตามองและน่าไปเที่ยว อาทิเช่น  แก่งคุดคู้, พระใหญ่ภูคกงิ้ว, ภูทอก, อช.ภูสนทราย(นาแห้ว), อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง


แก่งคุดคู้




อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง






หรือถ้าอยากสัมผัสชีวตที่เรียบง่ายของชาวบ้านที่นี่ คุณลองเช่าจักรยานสักคัน แล้วปั่นช้าๆ ชมเมืองเชียงคานและไหว้พระตามวัดต่างๆ ..
แล้วคุณจะรู้ได้ว่า เชียงคาน สงบงามเพียงไร..